แบบนี้เรียกว่าทนแรงกดดันไม่ไหวหรือไม่ เมื่อทางสื่อดังแดนผู้ดีอย่าง เดลี่ เมล ประโคมข่าวว่า ตระกูลเกลเซอร์ ตกเป็นข่าว ตั้งราคาขาย “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นที่เรียบร้อย โดยไม่ยื้อครอบครองทีมเอาไว้ต่อไปอีกแล้ว พร้อมคาดการณ์ 3 กลุ่มทุนรายใหม่ที่มีลุ้นเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร

เป็นที่เข้าใจกันว่า ตระกูลเกลเซอร์ ที่เป็นเจ้าของทีม แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ทีมอเมริกันฟุตบอลชื่อดังในศึกเอ็นเอเอฟ เข้ามาซื้อหุ้นร้อยละ 28.7% ที่ถือโดย จอห์น แมกมานัส และ เจ.พี. แมกเนียร์ 2 นักธุรกิจไอร์แลนด์ ก่อนจะยกระดับการถือครองหุ้นเรื่อยๆ

จนกลายเป็นเจ้าของทีมแบบเต็มตัว และสามารถเทคโอเวอร์ ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในปี 2005 ด้วยการทุ่มเงิน 790 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 34,000 ล้านบาท แม้ ตระกูลเกลเซอร์ จะยอมเทงบประมาณให้ เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวเนเธอร์แลนด์

ทุ่มเงินจับจ่ายใช้สอยแข้งเป้าหมาย เฉียดๆ 230 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,791 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการทุ่มเงินที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของทีม แต่กระนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้แฟนบอลพอใจถ้าเทียบกับภาพรวมดังกล่าวที่ผ่านมาทั้งหมด

ซึ่งตอนนี้กระแสเพียงแค่เบาบางลงเท่านั้นจากผลงานของทีมที่ชนะรวด 4 นัดหลังสุดในลีก นั่นทำให้ตระกูลเกลเซอร์ ได้ตั้งราคาขายทีมเอาไว้แล้วที่ตัวเลข 3,750 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 159,642 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ผู้ร่ำรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร ก็เคยสนใจที่จะเทคโอเวอร์ทีม นอกจากนี้ยังมี เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน ตำนานนักแข่ง ฟอร์มูล่า วัน ชื่อดัง รวมถึง กลุ่มทุนจากดูไบที่มีข่าวว่าให้ความสนใจเช่นกัน